วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Web Technology in Education.

WEB 1.0 in Education


1. webquests ให้นักเรียนใช้เวลาในเว็บในคือการค้นหาคำตอบสำหรับคำสั่งกิจกรรมที่ตั้งไว้
ทำกิจกรรมเกี่ยวหรือเป็นกลุ่มแบบเรียนรู้ร่วมกันได้
2. Quizzes แบบทดสอบปริศนาและเกม สร้างความสนุกสนาน,แบบทดสอบย่อย
3.  Sims ประยุกต์ใช้การสอน , แบบจำลองเพื่อความเข้าใจในเนือ้หาการเรียน

4.พจนานุกรมและสารานุกรมออนไลน์ ประยุกต์ใช้การสอน,เพื่อการค้นคว้าในการเรียนเพิ่มเติม

5. E-mail สร้างการสื่อสารระหว่างผู้เรียนและผู้สอน  , ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสื่อสาร
   จะเห็นได้ว่าใน WEB 1.0 จะเน้นการนำมาพาใช้เพื่อให้ผุ้เรียนเข้าถึงเนื้อหาในการเรียน เพื่อการค้นคว้า การศึกษา การทบทวน การทำแบบทดสอบ และการสื่อสาร เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเรียนมากขึ้น

WEB 2.0 in Education 

1. Blog การทำโครงงาน , การทำรายงาน , การเสนอผลงานวิจัย

2. Wiki การประชุมแสดงความคิดเห็น , การสร้างองค์ความรู้ใหม่
3.  Game Online สร้างความสนุกสนาน , ประยุกต์ใช้การสอน , การเรียนการสอนแบบทดลอง

4. RSS Feeds การติดตามข่าวสารจากผู้เรียนและผู้สอน , กำหนดการของมหาวิทยาลัย

5. Video ทำบทเรียนย้อนหลัง , เป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

6.  Webboard ฝึกการต้องข้อสงสัย การสังเกต และการแสดงความคิดเห็น

7.  Chat สร้างการสื่อสารสองทางระหว่างผู้เรียนและผู้สอน  , ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสื่อสาร

WEB 3.0 in Education

1. chatbots บทสนทนาอัจริยะเพื่อการให้ข้อมูล การแนะนำการเรียน การโต้ตอบกับผุ้เรียน

2. Virtual worlds ประยุกต์ใช้การสอนเพื่อการเรียนในชั้นเรียนเสมือน ทั้งการเรียน การทำกิจกรรม

3. M-learning การเข้าเรียนในระบบ

4.e-portfolios การทำแฟ้มงานส่วนตัว

5. VoIP สร้างการสื่อสารระหว่างผู้เรียนและผู้สอน 
ในขณะที่เว็บ 1.0 มุ่งเน้นข้อมูลเว็บและเว็บ 2.0 หมายถึงเว็บสังคม, เว็บระยะ 3.0 หมายถึงวิวัฒนาการของเว็บ ในรูปแบบ
เว็บเชิงความหมายหรือที่เรียกว่าเว็บอัจฉริยะ  การนำมาใช้ในการศึกษาจะเป็นในลักษณะห้องเรียนเสมือนมีการเรียนการสอนในชั้นเรียนเสมือนอย่างเต็มเวลามากขึ้น

WEB 4.0 future

จากแนวทางในการพัฒนาของเทคโนโลยีเวบ แสดงให้เห็นว่ามีการดึงข้อมูลในส่วนของ metadata มาวิเคราะห์เพื่อกาหนดการทำงานของ web osในอนาคต มากขึ้น โดยจะมีความสามารถดังนี้
1. มีการสร้างเงื่อนไขในการเข้าถึงบทเรียนที่แตกต่างกัน ทาให้ผู้เรียนที่มีพื้นฐานการเรียนต่างกันสามารถเรียนร่วมกันได้

2.ระบบช่วยตัดสินใจ ระบบช่วยแนะแนวทางให้แก่ผู้สอนในการวิเคราะห์ผู้เรียนด้วยเงื่อนไขที่ซับซ้อนขึ้น

3.ระบบแนะนาการเรียน ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ให้กับผู้เรียน

4.มีระบบการสื่อสาร การปฏิสัมพันธ์ในการเรียนที่สะดวก รวดเร็ว หลากหลาย เข้ากับพฤติกรรมในการใช้งานของผู้เรียนมากขึ้น

web technology in education


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น